แตงโม…ชื่นใจ..ได้ประโยชน์

ผลไม้ลูกสีเขียวๆ เนื้อแดงๆ รสหวานที่ชื่อ ‘แตงโม’ ใช่ว่าจะแค่อร่อยชื่นใจ แต่แตงโมมีความดีเลิศอีกเพียบที่อยากจะบอก…ก่อนอื่นก็ต้องบอกความเป็นมาความเป็นไปของเจ้าแตงโมงกันก่อนนะ
‘แตงโม’ มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบทวีปแอฟริกาในทะเลทรายคาลาฮารี ส่วนในประเทศไทยมีการปลูกแตงโมอยู่ทุกภูมิภาค ซึ่งพันธุ์ที่นิยมปลูกจะมีอยู่ 3 สายพันธุ์ สายพันธุ์แรกคือ พันธุ์ธรรมดา ได้แก่ แตงโมจินตหรา แตงโมตอร์ปิโด แตงโมกินรี แตงโมน้ำผึ้ง แตงโมไดอานา แตงโมจิ๋ว สายพันธุ์ที่สองคือ พันธุ์ไร้เมล็ด เป็นพันธุ์ผสมที่ผลิต เพื่อการส่งออก และสายพันธุ์ที่สามคือ พันธุ์กินเมล็ด เป็นการปลูก เพื่อนำเมล็ดไปคั่วตามรู้จักกันว่า…เม็ดกวยจี้
แตงโมเป็นผลไม้ที่มีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบีรวม แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียมและฟอสฟอรัส เนื่องจากสารอาหารเหล่านี้ แตงโมงจึงมีประโยชน์ ตามนี้- แตงโมเป็นผลไม้ที่เหมาะกับการควบคุมน้ำหนัก เพราะมีโพแทสเซียม แคลเซียมและฟอสฟอรัสที่ช่วยฟื้นฟู
ร่างกายแถมมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำจึงให้พลังงานน้อย ไม่มีไขมัน มีกากใยสูงและมีบริมาณน้ำมากทำให้ช่วยอิ่มเร็ว
– แตงโมช่วยป้องกันการสะสมของไขมัน ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย ลดปริมาณไขมันที่จับอยู่ในเส้นเลือด
– แตงโมช่วยบำรุงผิวพรรณและเส้นผมให้แข็งแรง เนื่องจากแตงโมอุดมไปด้วยวิตามินเอและซี ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อ
สุขภาพผิวและเส้นผม วิตามินซีในแตงโมงยังช่วยให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนที่เป็นโปรตีนช่วยทำให้ผิวพรรณอ่อนนุ่มและเส้นผมแข็งแรงด้วย
– แตงโมช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมร่างกาย สารที่อยู่ในแตงโมช่วยกระตุ้นการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อส่วน
ต่างๆ ในร่างกาย ทำให้ร่างกายเจริญเติบโต แล้วยังควบคุมระบบการทำงานของร่างกายให้เป็นปกติ ช่วยกระตุ้นการสร้างโปรตีนในกล้ามเนื้อ ช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมร่างกาย
– แตงโมมีส่วนช่วยบำรุงสายตา
– แตงโมช่วยลดความร้อนในร่างกาย
– เปลือกหรือผลอ่อนของแตงโมใช้ทำอาหารได้
– เปลือกของแตงโมที่มีสีเขียวอ่อน สามารถนำไปรับประทานแบบผักได้
แตงโมมีประโยชน์หลายอย่างและก็มีสรรพคุณทางยาอีกด้วยนะ
เนื่องจากแตงโมมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระชื่อว่า ‘ไลโคปิน’ แตงโมจึงสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง
และโรคหัวใจ แล้วกรดอะมิโนที่ชื่อ ‘ไซทรูไลน์’ ก็มีส่วนช่วยควบคุมความดันเลือดด้วย แตงโมยังช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้นและมีส่วนช่วยล้างพิษจากอาหารที่รับประทานเข้าไป ทั้งยังช่วยรักษาโรคหลอดเลือดแดงแข็งตัว ช่วยป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยป้องกันหวัดและช่วยลดไข้กับแก้อาการคอแห้ง
นอกจากผลแตงโมแล้ว ส่วนอื่นของแตงโมก็มีสรรพคุณด้วย เช่น ส่วนของเมล็ดแตงโมมีสรรพคุณช่วยบำรุงสมอง บำรุงร่างกาย ช่วยบำรุงปอด แก้โรคตับ ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิและแก้อาการปวดกระเพราะปัสสาวะ ส่วนของใบสามารถใช้เป็นยาลดไข้ ส่วนเปลือกช่วยป้องกันการเจ็บคอ ใช้ทารักษาแผล ช่วยคลายอาการปวดฟัน ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยบำรุงกำลังและแก้อาการอ่อนเพลีย ส่วนของรากสามารถใช้แก้โรคบิด โรคท้องร่วง แก้ร้อนในกระหายน้ำ
แม้แตงโมจะมีประโยชน์และสรรพคุณมากมาย แต่การรับประทานแตงโมก็มีข้อความระวังสำหรับผู้ป่วยที่ต้องควบคุมปริมาณน้ำในร่างกายหรือผู้ป่วยโรคไต นอกจากนี้แตงโมยังเป็นผลไม้ที่มีการใช้ยาฆ่าแมลงขณะปลูก ฉะนั้นการรับประทานแตงโมจึงควรจะล้างเปลือกให้สะอาด เพื่อป้องกันสารพิษตกค้าง อีกประการที่ควรจะระมัดระวังคือ การรับประทานแตงโมทีละมากๆ อาจจะทำให้เกิดอาการอาหารไม่ย่อยหรือท้องเสียได้ เนื่องจากน้ำในแตงโมจะไปละลายน้ำย่อยในกระเพาะอาหารให้เจือจางลงนั่นเอง การรับประทานแตงโมจึงควรแต่พอเหมาะพอดี เพื่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย
ทางด้านความสวยความงาม แตงโมก็สามารถช่วยเรื่องนี้ได้ โดยใช้อุปกรณ์ที่สามารถหาได้ในครัวเรือนดังนี้
– การสครับผิวด้วยแตงโมและน้ำตาล วิธีการคือ นำเนื้อแตงโมไปปั่นหรือบดให้ละเอียดได้ 1 ถ้วย และนำไปผสม
กับน้ำตาลทรายปริมาณ 1 ถ้วยกับผสมน้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ เสร็จแล้วคนผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำไปขัดผิวเบาๆ และทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรนี้เป็นการช่วยลดความหมองคล้ำ ทำให้ผิวสวยเนียน เปล่งปลั่ง กระจ่างใส ไม่แห้งตึง
– การสครับผิวด้วยแตงโมและน้ำมันมะพร้าว วิธีการคือ หันเนื้อแตงโมเป็นชิ้นเล็กๆ โดยให้ติดเนื้อสีขาวข้างเปลือก
ด้วยและนำไปบดด้วยช้อนให้พอได้กากแตงโม แล้วจึงผสมกับน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ คนให้ผสมเป็นเนื้อเดียวกัน ใส่น้ำตาลลงไป 1 ถ้วยและคนให้เข้ากัน จากนั้นสามารถนำไปสครับผิว โดยการนำไปขัดผิวเบาๆ ระหว่างการอาบน้ำและทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วจึงล้างออก สูตรนี้จะทำให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื่น
– การสครับผิวด้วยแตงโมงและน้ำผึ้ง วิธีการคือ นำเนื้อแตงโมบดในปริมาณ 1 ถ้วย แล้วผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
และบีบน้ำมะนาวเล็กน้อยกับผสมน้ำตาลทรายปริมาณ ½ ถ้วย แล้วคนผสมกันจนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำไปขัดผิวให้ทั่วตัวในระหว่างการอาบน้ำ เน้นส่วนที่แห้งและหยาบกร้าน เช่น ข้อศอกและหัวเข่า สูตรนี้ สามารถขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก ทำให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ที่เนียนสวยและยังช่วยรักษาอาการแสบ แดง ไหม้จากการถูกแสงแดดอีกด้วย
เห็นหรือยังว่า ผลไม้ที่เห็นกันจนชินตานั้นมีประโยชน์อย่างมาก ต่อแต่นี้ก็สามารถนำไปปรับใช้กันได้ตามแต่ความสะดวกเลยจ้ะ